วันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ พี่อิฐอยากชวนทุกคนมาเสริมความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ ได้บุญ ได้เที่ยว แถมได้เห็นความสวยงามของโบราณสถานเก่าแก่ ไปกับการ “ไหว้พระ 9 วัด จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมส่องสถาปัตยกรรมโบราณจากอิฐแดง” ซึ่งจะมีวัดไหนบ้าง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วตามพี่อิฐมาเลยครับ รับรองว่าอิ่มบุญ สุขใจ ได้รูปสวย ๆ ไปอวดในโซเชียลแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตามรอยอิฐแดงโบราณ ที่วัดมหาธาตุ กับการก่อสร้างของสถาปนิกสมัยอยุธยา
1. วัดมเหยงคณ์
เริ่มกันที่วัดมเหยงคณ์ เป็นวัดที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ซึ่งถึงแม้จะมีการทรุดโทรมไปมากตามกาลเวลา แต่ยังพอมีเค้าให้เห็นเป็นหลักฐานว่าวัดแห่งนี้มีศิลปะการก่อสร้างจากอิฐแดง อันประณีตงดงาม ภายในวัดมเหยงคณ์มีพระอุโบสถตั้งอยู่บนฐานสูง 2 ชั้น ลดหลั่นกัน ขนาดพระอุโบสถกว้าง 18 เมตร ยาว 36 เมตร นับว่าเป็นพระอุโบสถที่ใหญ่ที่สุดใน จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างในส่วนของสำนักปฏิบัติกรรมฐาน นอกเขตโบราณสถาน ที่มีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาร่วมรับการอบรมเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในชุมชน ที่ช่วยอนุรักษ์ศิลปะการก่อสร้าง และโบราณสถานให้คงอยู่
ที่ตั้ง : หมู่ 2 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 16.00 น. ทุกวัน
2. วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่ศักดิ์สิทธิ์ของวัด ถัดมาคือพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่บนพระวิหารเก่าในอดีต นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นคือ “พระเจดีย์ชัยมงคล” เจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยมที่สูงที่สุดในอยุธยา รวมความสูงองค์เจดีย์จากฐานถึงยอดได้ 62.10 เมตร ล้อมรอบเรียงรายไปด้วยพระพุทธรูปหินทราย นับเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่งดงาม และยังคงความสมบูรณ์เอาไว้ได้
ที่ตั้ง : หมู่ 3 เลขที่ 40/3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 1300
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น. ทุกวัน
3. วัดมหาธาตุ
วัดมหาธาตุ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ถ้าหากใครมาเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วจะพลาดไม่ได้เลย ไฮไลท์คือ เศียรพระพุทธรูปหินทรายในรากโพธิ์สุดโด่งดัง และพระปรางค์ประธานขนาดใหญ่ประดิษฐานท่ามกลางสถาปัตยกรรมโบราณจากอิฐแดงบนพื้นที่กว้าง ให้เดินชมกันได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเจดีย์แปดเหลี่ยม ที่มีเพียงวัดเดียวในอยุธยา และประติมากรรมที่งดงามอีกมากมาย เช่น พระพุทธรูปหินทรายมากกกว่า 20 องค์ ที่เรียงรายหันหน้าเข้าหาพระปรางค์ประธาน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ด้านหน้า ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ให้ได้เห็นถึงฝีมือของช่างในสมัยอยุธยา
ที่ตั้ง : ถนนนเรศวร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 18.00 น. ทุกวัน
4. วัดพระศรีสรรเพชญ์
วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ใกล้กับวิหารพระมงคลบพิตร ใจกลางวัดเป็นที่ตั้งขององค์พระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกา 3 องค์ เรียงกันสวยงาม และมีเจดีย์ราย ที่รายล้อมอยู่ทั้งหมด 33 องค์ สำหรับบรรจุพระบรมอัฐิของกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเกือบทุกพระองค์ นอกจากนี้ยังมีซากปรักหักพังที่แทรกอยู่ระหว่างพระเจดีย์ประธาน ซึ่งเป็นฐานเฉพาะของมณฑป และพระพุทธรูปที่ยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง แสดงให้เห็นถึงความปราณีต และความตั้งใจของช่างก่อสร้างในสมัยโบราณ ที่ต้องลองมาเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง
ที่ตั้ง : ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 16.30 น. ทุกวัน
5. วัดธรรมิกราช
วัดธรรมมิกราช เป็นวัดที่มีเศียรพระพุทธรูปสำริด ศิลปะสมัยอู่ทองขนาดใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา เหลือเพียงองค์จำลองที่ทางวัดจำลองไว้ ภายในวัดมีวิหารทรงธรรม ที่ประดิษฐานพระธรรมิกราช และเจดีย์ทรงกลมเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีปรากฏในวัดใด ฐานเจดีย์มีรูปปั้นสิงห์รายล้อมรอบ ๆ ถึง 52 ตัว ซึ่งหาชมได้ยาก กับพระพุทธไสยยาสน์องค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร ให้ประชาชนได้มากราบไหว้ ขอพร
ที่ตั้ง : ถ.อู่ทอง ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น. ทุกวัน
6. วัดหน้าพระเมรุ
วัดหน้าพระเมรุราชิการาม หรือเรียกสั้น ๆ ว่าวัดหน้าพระเมร เป็นวัดที่ประชาชนนิยมเข้ามากราบบูชา เพื่อความเป็นศิริมงคล และเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ ที่มีความสูงถึง 6 เมตร หน้าตักกว้าง 4.4 เมตร หล่อด้วยทองคำผสมสำริด งดงาม นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโบราณสถาน เป็นมีเจดีย์ราย 3 องค์ โดยองค์ทางทิศใต้ จะโดดเด่นกว่าองค์อื่น ๆ เพราะมีรากของต้นไทรแผ่หุ้มเศียรพระพุทธรูปรูปเอาไว้ คล้ายกับเศียรพระพุทธรูปในรากไม้ของวัดมหาธาตุ ซึ่งวัดหน้าพระเมรุเป็นวัดที่พม่าเคยใช้ตั้งกองบัญชาการ จึงไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลาย ทำให้สิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมตามแบบอยุธยายังคงสภาพสมบูรณ์มาจนปัจจุบัน
ที่ตั้ง : 76 หมู่4 ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น. ทุกวัน
7. วัดเชิงท่า
วัดเชิงท่า เป็นวัดที่สำนักโบราณคดีกรมศิลปากร ได้กำหนดให้เป็นแหล่งโบราณสถานของชาติ นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากภายในบริเวณวัดมีงานศิลปกรรมไทยสมัยอยุธยาตอนปลาย ในรูปแบบสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรมมากมาย รวมถึงโบราณสถานที่สำคัญอย่างพระปรางค์ห้ายอด ซึ่งมีลักษณะพิเศษ โดยก่อฐานพระปรางค์เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสร้างวิหารยื่นออกไปเป็นรูปไม้กางเขน นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์อีกจำนวนมาก รวมไปถึงศาลาการเปรียญหลังใหญ่ริมน้ำ ซึ่งข้างในมีภาพเขียนสีแบบไทยที่งดงาม
ที่ตั้ง : ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 17.00 น. ทุกวัน
8. วัดพระงาม
วัดพระงาม เป็นวัดเล็ก ๆ มีจุดเด่น คือ ซุ้มประตูโบราณที่ถูกโอบล้อมด้วยรากต้นโพธิ์นานนับ 100 ปี จนได้รับการขนานนามว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” ประตูมิติที่เมื่อได้เดินข้ามไปแล้วจะทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินข้ามเวลา ย้อนกลับไปยังอดีต ถือเป็น Unseen Thailand ที่ดูลึกลับน่าค้นหา สวยงามและแฝงด้วยมนต์เสน่ห์ ด้านในเป็นลานกว้าง มีทางเดินไปยังเจดีย์แปดเหลี่ยมมซึ่งเป็นเจดีย์ประธานตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา และองค์หลวงพ่อวัดพระงาม ให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ ขอพร ซึ่งถ้าหากพรเป็นดังหวัง ก็มักจะนำกล้วยน้ำว้า หรือไข่ต้มมาถวาย
ที่ตั้ง : 24 หมู่ที่ 4 ถนนซอยสลักหิน ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 19.00 น. ทุกวัน
9. วัดไชยวัฒนาราม
ปิดท้ายทริปที่วัดไชยวัฒนาราม ตามรอยออเจ้า ไปถ่ายรูปสวย ๆ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กับสถาปัตยกรรมโบราณที่ไม่เหมือนวัดอื่น ๆ ในอยุธยา เพราะบางส่วนได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะขอม โดยจำลองมาจากปราสาทนครวัด มีปรางค์ประธาน และปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน รายล้อมด้วยปรางค์บริวาร อีก 4 องค์ สิ่งที่น่าสนใจในวัดไชยวัฒนาราม คือ ระเบียงคด ที่เชื่อมต่อระหว่างเมรุแต่ละเมรุเอาไว้ ที่บริเวณระเบียงคดนี้จะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ รวมทั้งหมด 120 องค์ ปัจจุบันเหลือที่ยังมีพระเศียรอยู่เพียง 2 องค์เท่านั้น นอกจากนี้ เมื่อมาถึงวัดไชยวัฒนาราม เราจะสามารถมองเห็น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ ปรางค์ประธาน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณกลางวัดได้อย่างทันที นับเป็นอีกหนึ่งโบราณสถานที่งดงามไม่แพ้ที่ใด
ที่ตั้ง : ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 16.30 น. ทุกวัน
เส้นทางไหว้พระ 9 วัดอยุธยา พร้อมชมสถาปัตยกรรมโบราณสถาน
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับทริปไหว้พระ 9 วัด จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมชมความงดงามของสถาปัตยกรรมไทยจากอิฐแดง บนโบราณสถานอายุนับ 1,000 ปี ที่พี่อิฐนำมาฝากในครั้งนี้ หวังว่าจะถูกใจทุกคนนะครับ ส่วนในครั้งหน้าพี่อิฐจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ที่เพจอิฐแดง2009 เลย